ดูดวง

ฮวงจุ้ย ใช้ร่วมกับการดูดวง และแก้ดวง

บางครั้งดวงชะตาเหมือนติดขัด ลองมาดูว่าฮวงจุ้ยที่อยู่อาศัยเป็นอย่างไร

อ่านจบ กลับมาคลิกลิงก์ ขั้นตอนดูดวง และ ดูดวงฟรี ทั้ง 2 ลิงก์ เพื่อรับคำทำนายนะครับ

เว็บไซต์ได้รับ เครื่องหมายรับรอง DBD registered จาก กระทรวงพาณิชย์

** ฮวงจุ้ย เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ **

ฮวงจุ้ยต้องห้าม ใช้ร่วมกับการดูดวง และแก้ดวง

  1. บ้านหลังคารั่ว น้ำรั่ว น้ำเน่า น้ำหยด พูดง่ายคือปัญหาเรื่องระบบน้ำ จะมีเหตุให้เสียเงินโดยไม่ควรเสียภายใน 7 วัน หรือหากพ้นจากนั้นไปในช่วง 49 วัน บวก/ลบ 7 วัน ก็จะมีเรื่องเสียเงิน บางคนผูกดวงออกมาผมเห็นเลยว่า ไปอยู่บ้านไหนบ้านนั้นหลังคาจะรั่ว ถ้าไม่รั่วมาก่อน พอดวงคนแบบนี้เข้าไปอาศัยไม่นานก็รั่วเลย กรณีน้ำรั่วนี้นอกจากเสียเงินยังหมายถึง ครอบครัวแตกร้าว การเจ็บป่วย และข้าวของเสียหาย วิธีแก้ไขให้รีบซ่อมทันที บางคนปล่อยไว้ไม่ยอมซ่อม เงินทองก็จะไหลออกเก็บเงินไม่อยู่ มีหนี้สิน สำหรับคนที่ไปอยู่ที่ไหนเจอแต่น้ำรั่ว แนะนำให้ตรวจดูดวงกับผมเพื่อแก้ไข มิฉะนั้นท่านจะพบปัญหาซ้ำๆ แบบไม่มีวันจบ
  2. บ้านไม่มีลม อากาศร้อนหรือเย็นเกินไป มีความชื้น มีกลิ่นเหม็นจากที่อื่นมา ภายในบ้านอับชื้น อันตรายมากต้องรีบแก้ไข เพราะเป็นสาเหตุให้ กิจการงานไม่ดี สุขภาพคนย่ำแย่ สภาพจิตใจคนในบ้านไม่ปกติ มีคนป่วยเกิดขึ้นในบ้าน ความคิดอ่านในเรื่องต่างๆ ไม่สามารถไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ บริวารก็ไว้ใจไม่ค่อยได้ สาเหตุสำคัญที่ต้องระวังคือ ความเอาแต่ใจตนเอง ทำให้ครอบครัวไม่เป็นสุข ใช้เงินตามอารมณ์ ต้องมีการแก้ไขดวงชะตา พร้อมกับแก้ไขบ้านด้วย
  3. บ้านที่สร้างใหม่ ด้านหน้าต้องมีความสูงน้อยกว่าด้านหลังบ้าน อัตราส่วนประมาณ 2 ใน 3 ลักษณะเป็นขั้นบันไดขึ้นไป หรือสูงเท่ากัน แต่ห้ามหน้าบ้านสูงกว่าหลังบ้าน รวมทั้งสร้างบ้านด้านข้างกันด้วย
  4. การสร้างบ้านในพื้นที่เดียวกัน 2 หลัง บ้านหลังที่อยู่ส่วนด้านในต้องสูงกว่า บ้านที่อยู่ส่วนด้านหน้า
  5. รอบบ้านต้องมีทางเดินได้รอบทั้งหลัง ห้ามมีสิ่งขีดขวาง และทางเดินกว้างอย่างน้อย 1.5 เมตร ห้ามปลูกต้นไม้ หรือมีสิ่งของเกะกะขวางทางเดิน
  6. ห้ามมีประตู 3 บานตรงกัน แม้เหลื่อมกันเพียงนิดเดียวก็ไม่ได้ แม้เป็นประตูตู้ก็ต้องนับด้วย
  7. ห้ามใช้กระจกที่ทึบแสง และทําให้ภายในบ้านมืดครึ้ม อันทําให้ต้องเปิดไฟอ่านหนังสือ แม้เป็นเวลากลางวัน ถ้าเป็นแบบนี้ไม่ดี
  8. ส้วมทุกโถต้องหันไปหลังบ้าน หรือหันข้างบ้านเท่านั้น
  9. ห้ามเชื่อมบ้านสองหลังเข้าด้วยกัน แม้แต่ทางเดินที่อยู่ใกล้กัน ก็ให้เว้นไว้อย่างน้อย 1 คืบ
  10. บันไดเข้าบ้านให้หันหน้าไปทางที่จอดรถ
  11. น้ำตกอยู่ผิดตําแหน่งไม่ควรมีในบ้าน ให้ใช้วิธีตั้งอ่างบัวที่มุมรั้วใกล้ Terrace กับมุมบันไดที่จะขึ้น Terrace แทน ในตําแหน่งขวามือเวลาหันหน้าเข้าบันได ปกติน้ำควรอยู่ทิศเหนือ
  12. ภายในบ้าน ต้องไม่มีห้องมืด อับแสง หรืออับลม และไม่มีห้องอับชื้น
  13. กําแพงด้านตะวันตก ต้องกันความร้อนได้ดี ควรให้หนาเข้าไว้ หรือใช้วัสดุกันความร้อน เพื่อป้องกัน ความร้อนที่เกิดขึ้นจากแสงอาทิตย์ทางด้านทิศตะวันตก
  14. ห้ามปลูกต้นไม้ยืนต้นสูงใหญ่ใกล้ชิดตัวบ้าน โดยเฉพาะบริเวณหน้าบ้าน และตรงกับประตูห้ามเด็ดขาดู ให้ปลูกได้เฉพาะไม้พุ่ม ความสูงไม่เกินเอวของเจ้าของบ้าน
  15. บริเวณด้านใต้จะเป็นทิศที่ลมเข้า ตัวบ้านหลังใหม่มีห้องน้ำขวางกัน ดังนั้นให้แก้ด้วยการเปิดหน้าต่างรับลมตะวันตกเฉียงใต้ที่ห้องนอน นอกจากเป็นบานเลื่อนก็เปิดจากซ้ายไปขวา ส่วนห้องทํางานหากเป็นบานแบบเปิดปิด สามารถเปิดไปทางหน้าบ้านได้ สําหรับบานเลื่อนเปิดได้ตามความสวยงาม
  16. หากเป็นบ้านสองชั้นบันไดต้องทอดจากหลังบ้านขึ้นไปทางหน้าบ้าน ลักษณะเดินขึ้นทางหลังบ้านเดินขึ้นไปทางหน้าบ้าน และควรสร้างฝากับประตูป้องกันไม่ให้คนมองเห็นบันไดจากด้านนอก และอย่าให้มืด หรืออับลม ต้องมีช่องลมระบายกับช่องแสงด้วย และห้ามเป็นบันไดเปลือย อยู่นอกตัวอาคารแบบบันไดหนีไฟ หากจะเป็นบันไดเปลือย อย่างน้อยต้องมีเครื่องกีดขวางเช่น เหล็กดัดแนวยาวจากบนลงล่าง กันคนปีนขึ้น
  17. การสร้างบ้านทั้งภายในและภายนอก ควรให้มีเหลี่ยมมุมน้อยที่สุด โดยเฉพาะที่นอน กับโต๊ะนั่งทํางานห้ามมิให้มีเหลี่ยมมุมเช่น มุมเสาชี้มาเป็นอันขาด หากมีคานพาดผ่านต้องทําฝ้าเพดานปิดให้เรียบ และมีระดับเท่ากันทั้งหลัง
  18. พื้นบ้านต้องให้มีระดับเท่ากันตลอด ห้ามเล่นระดับ
  19. ท่อน้ำให้เข้าบ้านทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หรือเข้าทางด้านซ้ายมือของตัวบ้านเมื่อหันหน้าไปทางหน้าบ้าน
  20. ท่อระบายน้ำให้อยู่ด้านหน้าบ้าน แต่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับท่อน้ำเข้า ระบายน้ำทิ้งไปทางหน้าบ้าน หรือออกทางด้านขวามือของตัวบ้านเมื่อหันหน้าไปทางหน้าบ้าน
  21. ห้ามมีเสากลางบ้าน หากมีต้องติดกระจกรอบทั้งสี่ด้าน ความสูงอย่างน้อยต้องเท่ากับความสูงของขอบหน้าต่างด้านบน ส่วนด้านล่างกระจกเท่ากับขอบหน้าต่างด้านล่าง หรือติดตลอดความสูงของเสา หรือทำให้เป็นเสากลม หรือเสาแปดเหลี่ยม
  22. เมื่อเข้ามาอยู่อย่ามี ตู้ โต๊ะ เตียง ข้าวของเครื่องใช้มากเกินไป พยายามให้บ้านโล่งๆ ไว้ ความรู้สึกคล้ายกับโบสถ์ หรือวิหาร และบ้านห้ามรก มีของเกะกะ มองเข้ามาจากภายนอก ต้องให้คล้ายๆ มีข้าวของเครื่องใช้น้อย พยายามจัดกลางบ้านให้โล่ง ใช้เฟอร์นิเจอร์เตี้ยๆ วางกลางบ้าน ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่สูงๆ ไว้ตามขอบๆ ห้อง พูดง่ายๆ จัดลักษณะเหมือนอ่างน้ำเป็น slope ลงมาที่กลางบ้าน
  23. การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้วางคล้ายขั้นบันได โดยตู้ที่บาง และเตี้ยให้วางไว้ทางหน้าบ้าน ส่วนตู้ที่หนาและสูงเอาไว้ทางหลังบ้าน
  24. ประตูห้องน้ำห้ามมิให้ไปตรงกับเตียงนอน ลักษณะพุ่งชนเตียงนอน
  25. ประตูจากห้องทํางาน ห้ามไม่ให้พุ่งชนกับเตียง แม้ประตูอื่นๆ ก็ควรเว้นไม่ให้พุ่งชน
  26. ประตูห้องทํางานถ้าเป็นบ้านชั้นเดียวให้เปิดจาก Terrace ตรงกลางของบ้าน ถ้าเป็นสองชั้นประตูอยู่ด้านล่างให้เปิดตําแหน่งเดียวกัน
  27. ห้องนอนหากตู้เสื้อผ้าเป็นแบบ built in ห้ามมีกระจกเงาพุ่งชี้มาที่เตียง
  28. เตียงนอนห้ามไม่ให้กระจกเงา หรือทีวี หรือวัสดุที่เกิดเงา พุ่งมาที่ตัวคนนอนอยู่
  29. เตียงนอนห้ามไม่ให้มีคานพาดผ่าน นั่นคือห้ามนอนใต้คาน
  30. เตียงนอนห้ามไม่ให้มีมุมเสา มุมตู้ หรือมุมแหลมใดๆ ชี้มาที่เตียงนอน
  31. ห้ามนอนหันหัว หรือหันเท้าออกไปทางหน้าบ้าน
  32. เตียงนอนทุกเตียงในบ้าน ต้องนอนหันเท้าเข้ากลางบ้าน ดังนั้นห้องนอนที่อยู่ตรงข้ามกันก็จะหันเท้าเข้าหากัน
  33. ผู้อาวุโสมากต้องนอนส่วนด้านหลังบ้าน และผู้ที่อาวุโสน้อยกว่าต้องนอนส่วนด้านหน้าบ้าน เรียงตามลําดับกันมา
  34. ที่นอนแต่ละคนควรจะนอนในทิศที่ตรงกับปีเกิดของตัวเอง เริ่มจาก ปีชวด ทิศเหนือ เวียนตามเข็มนาฬิกา เถาะตะวันออก มะเมียทิศใต้ ระกาทิศตะวันตก นั่นคือไล่เรียงไปปีละ 30 องศา ชวด ฉลู ขาล เถาะ ฯลฯ
  35. ให้เลือกนอนในทิศคู่มิตรกับทิศปีเกิด คือทิศที่อยู่ออกไปจากทิศปีเกิดเป็นมุม 120 องศา
  36. ห้ามนอนในทิศคู่ศัตรูกับทิศปีเกิด คือทิศที่อยู่ตรงข้ามกับทิศปีเกิด กับทิศที่เป็นมุม 120 องศาจากทิศศัตรู
  37. ห้ามไม่ให้ความชื้นจากห้องน้ำไหลเข้ามาในตัวบ้านเด็ดขาด จะทําให้เสียหายหมด ต้องจัดการระบายลมให้ดีในส่วนนี้ โดยดูที่ลมพัดแนวมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ กับตะวันตกเฉียงใต้
  38. ภายในบ้านหากมีท่อน้ำรั่ว ท่อน้ำตัน น้ำเน่าส่งกลิ่นเหม็น หมายถึงฮวงจุ้ยไม่ดีแล้ว ให้รีบแก้ไขด่วน
  39. ภายในบ้านหากร้อนอบอ้าว อับชื้น หรือมีกลิ่นเหม็น แสดงว่าไม่ดีแล้ว ต้องรีบแก้ไข
  40. พระพุทธรูป และศาลเจ้าที่ ควรต้องหันหน้าออกไปทางหน้าบ้าน
  41. ด้านหลังของพระพุทธรูป และศาลเจ้าที่ ควรเป็นสิ่งที่มันคง ปราศจากการเคลื่อนไหว และกว้างๆ เช่นผนังกําแพง
  42. ทางเดินในบ้าน ห้ามมีทางสามแพร่งเกิดขึ้น และไปตรงกับประตู
  43. บ้านควรหันหน้าบ้านให้ตรงกับปีเกิดของเจ้าของบ้าน ตามองศาดังนี้
    ชวด 0 องศา
    ฉลู 30 องศา
    ขาล 60 องศา
    เถาะ 90 องศา
    มะโรง 120 องศา
    มะเส็ง 150 องศา
    มะเมีย 180 องศา
    มะแม 210 องศา
    วอก 240 องศา
    ระกา 270 องศา
    จอ 300 องศา
    กุน 330 องศา
    รองลงไปคือ บวก/ลบ ได้ข้างละ 15 องศา
    รองลงไปอีกคือ ทิศที่เป็นคู่มิตรกันกับปีเกิด แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
    ชวด มะโรง วอก
    ฉลู มะเส็ง ระกา
    ขาล มะเมีย จอ
    เถาะ มะแม กุน
    อีกนัยหนึ่งที่นิยมคือ หันหน้าบ้านไปทางทิศใต้

ข้อมูลข้างต้น ควรใช้ประกอบร่วมกับการดูดวงชะตา