ดูดวง

ฤกษ์ยามเดินทาง ใช้ประกอบการดูดวง

เพื่อความสำเร็จจากฤกษ์ยามเดินทาง แนะนำใช้ดูดวงอนาคต 15 เดือน 300 บาท การันตีความแม่นเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ..อ่านต่อด้านล่างหน้านี้

เว็บไซต์ได้รับ เครื่องหมายรับรอง ดูดวง อ.วรุตม์ ได้รับเครื่องหมายรับรองจากกระทรวงพาณิชย์ จาก กระทรวงพาณิชย์

** ฤกษ์ยามเดินทาง เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ **

ฤกษ์ยามเดินทาง

ฤกษ์ยามเดินทางในที่นี้ใช้ "ยามพระรามเดินดง" หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ยามอัฐกาลชั้นฉาย" เป็นหลักการที่สะดวก และนิยมใช้มาแต่สมัยโบราณ

ในการเดินทางนั้นมีทิศ กับเวลาที่เริ่มให้เดินทางในแต่ละวัน และควรต้องตรวจดูดวงชะตา กับสีนำโชคประกอบด้วยเช่น ใช้ในเวลาที่ดวงชะตาบอกว่า จะมีโชคลาภยิ่งเห็นผลชัด หรือเมื่อจำเป็นต้องการเดินทาง เพื่อไปทำธุระอย่างใดอย่างหนึ่งให้สำเร็จ ให้ดูความหมายในบทโคลงประกอบการตัดสินใจ

เวลาที่ใช้ต้องเป็นเวลาที่เฉลี่ยจาก พระอาทิตย์ขึ้นและตกในแต่ละวัน ซึ่งระหว่างฤดูร้อนกับฤดูหนาว ประเทศที่อยู่ห่างเส้นศูนย์สูตรมาก ความยาวของช่วงเวลากลางวัน กับกลางคืน จะมีความแตกต่างกันหลายชั่วโมง

เราต้องเอาเวลาภาคกลางวัน หลังจากที่พระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกมาหารด้วย 8 จะได้ยามกลางวัน 8 ยาม และเอาเวลาภาคกลางคืน หลังพระอาทิตย์ตกถึงพระอาทิตย์ขึ้นมาหารด้วย 8 ก็จะได้ยามกลางคืน 8 ยาม

ส่วนเวลาที่ลงไว้ในที่ด้านล่างนี้ เป็นเวลาเฉลี่ยที่สามารถใช้ในประเทศไทย หากท่านไม่สะดวกในการคำนวณแบ่งยาม ก็ให้เลือกช่วงกลางๆ เวลาของแต่ละยามเช่น 07.30 ถึง 09.00 ก็เลือกเดินทางประมาณ 08.15 เป็นต้น จะได้ผลดีกว่า

ส่วนผลของการเดินทางจะมีความคล้ายๆ แบบพอสังเกตได้ เมื่อเทียบกับบทโคลง ที่โบราณจารย์ได้ประพันธ์เอาไว้ในแต่ละยาม

การเลือกการเดินทางยังต้องใช้ประกอบกับ ทิศทางที่ดีร้ายในแต่ละวันด้วย

ยังมีหลักการทางโหราศาสตร์ที่ต้องใช้ ซึ่งต้องดูดวงประกอบการตัดสินใจ เช่นในขณะนั้นห้ามเดินทางไปทางทิศต้องห้ามเด็ดขาด ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่ค่อยเกิดบ่อยนัก ผมจึงคิดว่าแค่นี้พอจะใช้ได้แล้วสำหรับคนทั่วไป

ปัญหาอีกอย่างหนึ่งคือ สมมติว่าเราจะเดินทางทิศเหนือในวันพุธ ซึ่งเป็นทิศไม่ดีที่จะเดินทางในวันพุธ

วิธีแก้เคล็ดคือ ในเวลาที่ออกจากบ้านให้หันหน้า หรือขับรถออกมุ่งไปทางทิศใต้ระยะหนึ่งก่อน เพราะทิศใต้เป็นทิศที่ดีของวันพุธ แล้วเวียนขวากลับหลังหันขึ้นไปทิศเหนือตามต้องการ แต่ผลที่ได้รับส่วนใหญ่จะเพียงเสมอตัวเท่านั้น

ในการเดินทางทุกครั้ง ต้องตั้งจิตไปในทางบุญกุศล อธิษฐานให้เทวดาประจำทิศ นำพาให้สําเร็จดังใจมุ่งหวังนะครับ


ทิศทางที่ดีร้ายในแต่ละวัน

วันอาทิตย์ให้เดินทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ดี แต่ห้ามเดินทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศตะวันตก

วันจันทร์ ให้เดินทางทิศตะวันตกดี แต่ห้ามเดินทางทิศตะวันออก

วันอังคาร ให้เดินทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ดี แต่ห้ามเดินทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศเหนือ

วันพุธ ให้เดินทางทิศใต้ดี แต่ห้ามเดินทางทิศเหนือ

วันพฤหัส ให้เดินทางทิศเหนือดี แต่ห้ามเดินทางทิศใต้

วันศุกร์ ให้เดินทางทิศตะวันออกดี แต่ห้ามเดินทางทิศตะวันตก

วันเสาร์ ให้เดินทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือดี แต่ห้ามเดินทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศตะวันออก

ยามพระรามเดินดง หรือยามอัฐกาลชั้นฉาย

เวลาที่ใช้ต้องใช้เวลาท้องถิ่น หากไม่เข้าใจให้ใช้ช่วงเวลากลางๆ ของยาม

วันอาทิตย์

ยามกลางวัน

06.00 ถึง 07.30 สุริชะแรกรุ่นแดดอุ่นอ่อน เมื่อวานรเนระคุณลิงจุ่นจิ๋ว เห็นรังนกกระจาบรายบนปลายงิ้ว ก็ไพร่พลิ้วเข้าอาศัยอยู่ในรัง

07.30 ถึง 09.00 ศุกระลิงไพรใจโกหก ลวงให้นกรักใคร่เหมือนใจหวัง จนปักษีมีไข่มิได้ระวัง เพราะเชื่อฟังลมลิงไม่กริ่งใจ

09.00 ถึง 10.30 พุธะลิงป่าอุลามก เห็นไข่นกนึกหมายน้ำลายไหล จับขึ้นลูบคลําแล้วกําไว้ อยากจะใคร่ได้กินแลบลิ้นเลีย

10.30 ถึง 12.00 จันเทาเอาไข่เข้าใส่ปาก กระโดดจากต้นงิ้วพลิ้วไปเสีย แล้วซ่อนตัวกลัววิหคนกตัวเมีย เอาทรายเกลี่ยกลบไข่เสียให้ลับ

12.00 ถึง 13.30 เสารีสกุณีไม่เห็นไข่ ก็สงสัยลิงจุ่นมุ่นไปจับ พบลิงไพรถามไตร่ก็ไม่รับ ก็เถียงกับนกกระจาบถึงหยาบคาย

13.30 ถึง 15.00 ยามครูมุนีพิพากษา ว่ามึงมาอาศัยไข่เขาหาย บอกจริง ๆ ลิงจุ่นอย่าวุ่นวาย ลิงผู้ร้ายกลับเถียงขึ้นเสียงดัง

15.00 ถึง 16.30 ภุมมะพระสิทธาคว้าเชือกเข้า มัดลิงเฒ่าศอกชิดติดสันหลัง จึงคืนไข่ให้นกกระจาบคาบไปรัง แต่ลิงยังไม่พ้นทนทรมา

16.30 ถึง 18.00 สุริชะฤๅษีจึงสอนว่า ทีนี้อย่าโว้เว้อ้ายเดระฉาน แล้วปล่อยลิงวิ่งโผนโจนทะยาน ไปสําราญอยู่ที่เขาลําเนาดง

ยามกลางคืน

18.00 ถึง 19.30 ระวิยามงามเลิศประเสริฐทรัพย์ ตามฉบับบอกไว้อย่าไหลหลง มโหสถคิดอ่านการณรงค์ ขุดอุโมงค์เข้าเมืองท้าวจุลนี

19.30 ถึง 21.00 ชีโวพลโฮ่กระหึ่มฮืก ออกสอึกองอาจดังราชสีห์ ก็ยกทัพเคลื่อนคลาจากธานี ไปถึงที่ประทับตั้งทัพไชย

21.00 ถึง 22.30 ศะศิตริกล่าวท้าววิเท่ห์ สมคะเนนึกอนงค์ยังหลงไหล ถึงนิเวศน์เวียงวังตั้งพระทัย ตามมโหสถไปไม่ช้าที

22.30 ถึง 24.00 ศุโกรโอ้ท้าวเธอทุกข์เทวษ ทอดพระเนตรนกไม้ในไพรสี แล้วคนึงถึงลูกสาวท้าวจุลนี จนถึงที่กองทัพพลับพลาไชย

24.00 ถึง 01.30 ภุมโมโยธาสิบห้าแสน เสทือนแน่นโลกาสุธาไหว ทั้งแตรสังข์กึกก้องแซ่ซ้องไพร แห่ห้อมล้อมไปจนถึงเมือง

01.30 ถึง 03.00 เสารีรีบรุดมุดขึ้นได้ ก็จับชาวเวียงไชยมาแน่นเนือง ทั้งลูกสาวเข้าของก็นองเนือง ได้บ้านเมืองหมดทั่วทั้งรั้ววัง

03.00 ถึง 04.30 พุโธโอ้ท้าวจุลนีราช แพ้เจ้าปราชญ์คิดไว้ไม่สมหวัง เธอเสียลูกเสียเมียเสียเวียงวัง ก็เสียทั้งไพร่พลแลมนตรี

04.30 ถึง 06.00 ระวิยามงามสุดปัจจุสมัย จวนจะใกล้รุ่งรางสว่างศรี ได้เมื่อครั้งคราวท้าวจุลนี เธอเสียทีกับองค์พระทรงญาณ

วันจันทร์

ยามกลางวัน

06.00 ถึง 07.30 จันเทาสว่างกระจ่างแจ้ง สุริย์แสงส่องฟ้าสุธาสถาน ได้เมื่อโฆษกผู้กุมาร เกิดในครรภ์จัณฑาลทรพล

07.30 ถึง 09.00 เสารีว่าแม่แต่คลอดบุตร ก็แสนสุดยากไร้ไม่เป็นผล ร้อนรุ่มกลุ้มอกยกลูกตน กระเสือกกระสนซ่อนไว้อยู่ในรก

09.00 ถึง 10.30 ยามครูเศรษฐีมาพบเข้าก็อุ้มเอาอิงแอบไว้แนบอก เลี้ยงเป็นบุตรสุดสวาดิ์ในทารก ก็ยอมยกสมบัติให้ครอบครอง

10.30 ถึง 12.00 ภุมมะเศรษฐีกลับพิโรธ จะทําโทษเฆี่ยนขับให้อับหมอง เป็นยามร้ายหมายจําเอาทํานอง ท่านหมายปองคิดร้ายเมื่อปลายมือ

12.00 ถึง 13.30 สุริชะยามนี้เศรษฐีใช้ เป็นความลึกลับกับหนังสือ หมายจะให้ตายในกลางไฟฮือ ให้เจ้าโฆษกถือเอาไปพลัน

13.30 ถึง 15.00 ศุกระมาปะบุตรเศรษฐี เป็นยามดีชีวาไม่อาสัญ ลูกเศรษฐีมาตายวายชีวัน เจ้าโฆษกผายผันมาเรือนตน

15.00 ถึง 16.30 พุธะเศรษฐีสิ้นชีวิต ถึงอนิจกรรมสัตว์วิบัติผล อีกสมบัติวัตถาทั้งข้าคน ยามนี้ร้ายแรงรนไม่สู้ดี

16.30 ถึง 18.00 จันเทาเจ้ากุมภะโฆษก ได้ป้องปกสมบัติแห่งเศรษฐี มีเงินทองบ่าวไพร่ได้เป็นดี อยู่แทนที่เศรษฐีสําราญใจ

ยามกลางคืน

18.00 ถึง 19.30 ศศิยามค่ำคืนคลุ้มชอุ่มศรี เป็นยามดีมั่นคงไม่สงสัย พระเตมีย์มาเถิดกําเนิดใน ชื่นพระทัยชนนียินดีครัน

19.30 ถึง 21.00 ศุโกรเมื่อพระองค์ทรงผนวช เป็นยวดยิ่งยอดงามยามขยัน ทําสิ่งไรก็สําเร็จเสร็จทุกอัน จะรําพรรณทายเทียบเปรียบพิปราย

21.00 ถึง 22.30 ภุมโมเมื่อพระองค์ทรงทําใบ้ ด้วยพระทัยมิได้ตรัสเป็นอรรถฐาน พระตรึกตรองปองประโยชน์โพธิญาณ ตามนิทานว่าไว้ไม่สู้ดี

22.30 ถึง 24.00 โสโรปางพระโพธิสัตว์นั้น เธอหมายมั่นมัธยัสไม่ถอยดี เมื่อคชสารหาญกล้าเข้าราวี ร้ายกับดีกึ่งกันจงหันตาม

24.00 ถึง 01.30 พุโธโอ้พระโพธิสัตว์ไม่ตรัสเหตุ พระปิตุเรศแค้นเคืองด้วยเรื่องถาม ให้ขุดหลุมฝังเสียจะเกลี่ยความ ด้วยเป็นยามร้ายแรงอย่าแคลงใจ

01.30 ถึง 03.00 ระวิยามงามเลิศประเสริฐศรี พระเตมีย์แผลงศักดาสุธาไหว แล้วตรัสว่าสารถีที่ตามไป ให้อยู่ในยุติธรรมเป็นสําคัญ

03.00 ถึง 04.30 ชีโวโพธิสัตว์เธอตรัสรู้ ได้เป็นครูสิ้นสุดมนุษย์สวรรค์ ในยามนี้ดีเลิศประเสริฐครัน เป็นมหันตมหาโอฬาราน

04.30 ถึง 06.00 ศศิธรค่อนรุ่งอร่ามศรี เป็นยามดีสารพันจะบรรหาร เมื่อพระองค์ทรงบําเพ็ญเล็งพระญาณ จะโปรดปรานสรรพสัตว์โลกา

วันอังคาร

ยามกลางวัน

06.00 ถึง 07.30 ภุมมะรุ่งรางกระจ่างฉาย ดีกับร้ายกึ่งกันจงหันหา เมื่อกระบือชื่อพญาทรพา อยู่ในป่าตัวเดียวเที่ยวกระเจิง

07.30 ถึง 09.00 สุริชะเมื่อได้บริวาร แสนสําราญวิ่งโลดโดดเถลิง เกิดกําลังตั้งท่าทําร่าเริง เที่ยวแลเบิ่งเป็นใหญ่ในฝูงควาย

09.00 ถึง 10.30 สุกระยามนี้เมื่อมีบุตร มารดาสุดรักใคร่ไม่ขยาย สู้ถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกชาย ไม่กล้ำกลายกลัวพ่อทรพา

10.30 ถึง 12.00 พุธะมารดาพาไปซ่อน ในดงดอนเข้าอยู่ใต้คูหา เป็นยามดีมิให้ได้ระอา เทวดาผดุงบํารุงตน

12.00 ถึง 13.30 จันเทาทรพีมันมีฤทธิ์ ออกเที่ยวขวิดภูผาโกลาหล แล้ววัดรอยพ่อดูจะสู้ชน เป็นยามคนคิดร้ายเอาปลายมือ

13.30 ถึง 15.00 เสารีทรพีไม่ย่อท้อ เข้าสู้พ่อชนได้ไม่ใช่หรือ เป็นยามร้ายรุมใจดังไฟฮือ ตอนปลายมือแพ้คนทุพลพาล

15.00 ถึง 16.30 ยามครูทรพาก็อาสัญ ด้วยลูกมันขวิดขวับดับสังขาร ร้ายนักหนาสารพรรณจะบันดาล อย่าทําการยามนี้ชีวาวาย

16.30 ถึง 18.00 ภุมมะทรพีมีชัยพ่อ ในใจคอสําราญบานขยาย ก็ตั้งตัวเป็นใหญ่ในฝูงควาย แสนสบายยามนี้เห็นดีครัน

ยามกลางคืน

18.00 ถึง 19.30 ภุมโมยามค่ำร่ำว่าให้ปรากฏ เหมือนพระรถปรีเปรมเกษมสันติ์ ขึ้นจากอุโมงทรงม้าอาชาพลัน ในยามนั้นดีแท้เป็นแน่นอน

19.30 ถึง 21.00 โสโรเหมือนพระรสยศไกร เล่นสบ้ามีไชยสโมสร เป็นยามดีมีสง่าสถาพร เล่นพะนันผันผ่อนจะมีไชย

21.00 ถึง 22.30 พุโธโอ้พระรถยศยิ่ง ได้ทรัพย์สิ่งโภคาเป็นไหนๆ มาเลี้ยงดูมารดาอันยาใจ ยามนี้ใช้ได้ดอกบอกอาการ

22.30 ถึง 24.00 ระวิตริตรองดึกสงัด บิดาตรัสใช้ให้ถือหนังสือสาร หวังจะให้ลูกชายนั้นวายปราน ไม่ได้การยามนี้ไม่ดีเลย

24.00 ถึง 01.30 ชีโวฤๅษีอันมีเวท ได้ทราบเหตุแปลงสารเสียเฉย ๆ หวังจะให้ได้เมรีมาชมเชย พระรถเลยไปตามเป็นยามดี

01.30 ถึง 03.00 ศศิริรักประจักษ์แล้ว จึงม้าแก้วพาเหาะระเห็จหนี ข้ามคงคาเหาะคว้างกลางเมฆี ยามนี้ดีกับร้ายระคนกัน

03.00 ถึง 04.30 ศุโกรเมื่อเมรีไม่เห็นผัว ให้หมองมัวตามหาถึงอาสัญ ยามนี้ร้ายอย่าได้จรจรัล อย่าผูกพันไมตรีจะมีภัย

04.30 ถึง 06.00 ภุมโมเมื่อม้าพาพระรถ ข้ามบรรพตโขดเขินเนินไสล มาถึงเมืองบิดานราไทย สําราญใจพระรสยศยง

วันพุธ

ยามกลางวัน

06.00 ถึง 07.30 พุธะโพธิสัตว์พระฉัตทันต์ จากสวรรค์มาเกิดในไพรระหง เป็นใหญ่กว่าฝูงช้างในกลางดง พระองค์ทรงสิลาบารมี

07.30 ถึง 09.00 จันเทานางช้างทั้งหลายล้อม สพรั่งพร้อมเป็นชะนัดล้วนหัตถี ก็อยู่เย็นเป็นสุขทุกราตรี มิได้มีภยันต์อันตราย

09.00 ถึง 10.30 เสารีได้เมื่อนางจุลสุพัตรา ผูกเวราเวรไว้เหมือนใจหมาย ปองจะฆ่าพญาฉัตทันต์พลาย ยามนี้ร้ายศัตรูมักดูแคลน

10.30 ถึง 12.00 ยามครูนางช้างไม่วางโศก บังเกิดโรคในทรวงเพราะหวงแหน อกแตกตายวายชีวงในดงแดน ยามนี้แสนร้ายสุดไม่อุดม

12.00 ถึง 13.30 ภุมมะจุลสุพัตอุบัติแล้ว เป็นนางแก้วเจ้าถนอมจอมสนม ได้สมบัติพัสถานสําราญรมณ์ นางก็ชมเชยชื่นทุกคืนวัน

13.30 ถึง 15.00 สุริชะนางกษัตริย์จึงตรัสว่า จะใคร่นอนแท่นงาอันเฉิดฉัน เฝ้าอ้อนวอนบิดาแล้วจาบัลย์ ด้วยยามนั้นไม่ร้ายพอใช้การ

15.00 ถึง 16.30 ศุกระพรานไพรน้ำใจกล้า รับอาสาท้าวไทเข้าไพรสาณฑ์ เป็นยามดีและได้สมอารมณ์พราน ไปพบพานโพธิสัตว์พระฉัตทันต์

16.30 ถึง 18.00 โพธิสัตว์ยอดหัตถา ก็ถอดงาออกให้ขมีขมัน แล้วพระองค์มรณาในป่าวัน ในยามนั้นต้องห้ามตามนิยาย

ยามกลางคืน

18.00 ถึง 19.30 พุโธโพล้เพล้ราวพลบค่ำ พระลอล้ำงามเลิศอันเฉิดฉาย จากนครจรมาเอกากายค่อยผันผายตามไก่เข้าในดง

19.30 ถึง 21.00 ระวิยามตามมาในป่ากว้าง ได้พบนางพี่น้องสองนวลหง เจรจาพาทีไมตรีตรง ให้พระองค์อาศัยในอุทยาน

21.00 ถึง 22.30 ชีโวยามดีไม่มีแหนง เจ้าเพื่อนแพงโฉมงามทรามสงสาร ปรพคองเคียงเลี้ยงดูพระกุมาร แสรสําราญพระทัยไม่ไคลคลา

22.30 ถึง 24.00 ศศิตริตรองไม่นึกแหนง สองเพื่อนแพงปลอบไธ้ให้หรรษา เกษมสรวลชวนชมภิรมยา อยู่ในป่าสําราญบานพระทัย

24.00 ถึง 01.30 ศุโกรโอ้ท้าวเธอเศร้าจิต คนึงคิดถึงมารดาน้ำตาไหล ไม่สู้ดียามนี้มักตรอมใจ อุปมัยเหมือนความตามเรื่องราว

01.30 ถึง 03.00 ภุมโมเมื่อพระลอเธอพลัดพราก กําจัดจากมารดานิราสถาน เพราะปู่เจ้าเข้าดลกมลมาน อย่าทําการยามนี้ผีคนอง

03.00 ถึง 04.30 โสโรโอ้พระลอวรนาถ คิดถึงนุชสุดสวาทเธอทั้งสอง จรจากพารามาหาน้อง ยามนี้ต้องต้นร้ายตอนปลายดี

04.30 ถึง 06.00 พุโธพระลอเฉลิมภพ มาประสบพบนางอยู่ปรางค์ศรี สุขเกษมเปรมปราทุกราตรี เป็นยามดีจงจําเอาตํารา

วันพฤหัส

ยามกลางวัน

06.00 ถึง 07.30 พระครูเรียงความตามนิบาต กุศราชเรืองฤทธิทุกทิศา เกิดในวงพงษ์กษัตริย์ขัติยา เป็นมหาสมมุติวงศ์ผู้ทรงนาม

07.30 ถึง 09.00 ภุมมะพระได้เสวยราช ทั้งเปรื่องปราชญ์ฤๅเลื่องเรืองสนาม แต่รูปทรงของพระองค์ไม่สู้งาม แต่ว่ายามนี้ดีดังมีมา

09.00 ถึง 10.30 สุริชะพระได้มเหสี ชื่อประภาวดีเสน่หา ประคองเคียงเพียงดวงนัยนา ครองพาราเป็นสุขสนุกสบาย

10.30 ถึง 12.00 ศุกระประภาวดีหนี ไปบุรีบิตุเรศอันเรืองฉาย กุศราชร้อนใจไม่สบาย เป็นยามร้ายร้อนรนพ้นประมาณ

12.00 ถึง 13.30 พุธะยามพระกุศราช ไปตามนาฏถึงประเทศเขตสถาน จนพบองค์นงเยาว์ลําเภาพาน แต่ภูบาลยังมิได้เข้าใกล้นาง

13.30 ถึง 15.00 จันเทาท้าวไทพิไรร่ำ ทุกคืนค่ำกําสดสลดหมาง ไม่สู้ดียามนี้ก็เป็นกลาง มักจะร้างแรมรักษ์ประจักษ์ใจ

15.00 ถึง 16.30 เสารีกุศราชชนะศึก ก็สมนึกยินดีจะมีไหน ทําสงครามยามนี้จะมีไชย จงจําไว้เป็นอย่างอย่าคลางแคลง

16.30 ถึง 18.00 ยามครูบริสุทธิ์พระกุศราช เสวยราชฤๅทั่วกลัวแสยง สมดังจิตคิดไว้มิได้แคลง กุศลแต่งให้ดีมีบุญญา

ยามกลางคืน

18.00 ถึง 19.30 ชีโวอุตโมโอฬาร์ล้ำ เวลาค่ำยามนี้ดีหนักหนา ได้เมื่อสุทธนูกุมารา อาชาพาลดเลี้ยวเที่ยวหาเมีย

19.30 ถึง 21.00 ศศิได้พบประสบพักตร์ อารีรักร่วมใจจนได้เสีย ไม่อิ่มหนําค่ำเช้าเฝ้าเคล้าเคลีย หาลูกเมียยามนี้ดีสุดใจ

21.00 ถึง 22.30 ศุโกรสุทธนูพาคู่ชื่น เสด็จคืนพาราอันผ่องใส อยู่ด้วยประภาเป็นยาใจ ในเวียงไชยชื่นชมภิรมยา

22.30 ถึง 24.00 ภุมโมชมชิดพิศวาท ด้วยนางนาฏน้องน้อยเสน่หา เสวยรมณ์ชมแสนสวรรยา ทั้งสองรารื่นเริงบรรเทิงใจ

24.00 ถึง 01.30 โสโรเมื่อม้าอาชาชาติ พานางนาฏข้ามเขิมเนินไศล ไปหามารดาด้วยอาลัย แต่ว่าไปไม่ถึงได้กึ่งทาง

01.30 ถึง 03.00 พุโธอาศัยอยู่ในป่า พลัดกับม้านุชน้องก็หมองหมาง มีโจรไพรใจกล้ามาลักนาง อย่าเดินทางไปไกลภัยจะมี

03.00 ถึง 04.30 ระวินี้นงเยาว์สําเภาแตก ลําบากกายว่ายแวกวารีศรี ห้ามมิให้เดินทางกลางนัทธี เหตุจะมีเหมือนกันดังพรรณา

04.30 ถึง 06.00 ชีโวสุริโยอโณภาส อนงค์นาฏเดินไพรไกลหนักหนา ได้พบม้าชื่นชมสมจินดา ก็พักพากันไปดังใจปอง

วันศุกร์

ยามกลางวัน

06.00 ถึง 07.30 ศุกระยามมหาสถาผล พระสุทนมาเกิดกําเนิดสนอง เป็นกษัตริย์ฟุ้งเฟื่องอันเรืองรอง ได้ครอบครองสมบัติสวัสดี

07.30 ถึง 09.00 พุธะพระได้มะโนเรศ เป็นปิ่นเกษไกรลาศคีริศรี โฉมสําอางค์นางฟ้ากุมารี พระภูมีเชยชมภิรมย์ทรวง

09.00 ถึง 10.30 จันเทาเยาวเรศเหตุจะมี พบฤๅษีนางสั่งถึงวังหลวง เป็นยามเศร้าโศกาน้ำตาตวง ประดุจดวงชีวิตจะปลิดปลง

10.30 ถึง 12.00 เสารีสามีเที่ยวตามหา แสนโศกามาในไพรระหง ถึงอาศรมฤๅษีที่กลางดง พระนงลักษณ์ถามไถ่อยู่ไปมา

12.00 ถึง 13.30 ยามครูมุนีก็ชี้ช่อง เหมือนทํานองนางสั่งไม่กังขา พระจดจําถ้อยคําแล้วอําลา ยามนี้หนาลําบากด้วยจากกัน

13.30 ถึง 15.00 ภุมมะพระไปเหมือนใจหวัง ขึ้นขี่หลังนกใหญ่ข้ามไพรสันฑ์ ถึงไกรลาศยาร์ตเยื้องจรจรัล เข้าเขตขันฑ์เสมาพระธานี

15.00 ถึง 16.30 สุริชะมาปะเมื่อนางสรง แล้วให้พระธํารงค์อันเรื่องศรี รู้ว่าอธิบดินทร์ก็ยินดี กินนรีสอดดูพระภูธร

16.30 ถึง 18.00 ศุกระพระได้เสวยสุข นิราศทุกข์ภิญโญสโมสร ได้นางคืนชื่นจิตต์สนิทนอน สถาพรพูลสวัสดิ์เป็นอัตรา

ยามกลางคืน

18.00 ถึง 19.30 ศุโกรโอฬาร์มหาวิเศษ เหมือนพระเวสสันดรนาถา ครองพิภพสีพีเธอปรีดา ฝูงประชาชนชื่นทุกคืนวัน

19.30 ถึง 21.00 ภุมโมยามร้ายให้ขัดขวาง เธอให้ช้างเผือกผู้ตัวขยัน พลเมืองกริ้วโกรธต้องโทษทัณฑ์ ก็ชวนกันปรึกษาว่าไม่ดี

21.00 ถึง 22.30 โสโรร้ายได้เมื่อบิดาโกรธ คุมโทษสําทับต้องขับหนี ไม่เอาไว้ให้อยู่ในบุรี ด้วยทําผิดประเพณีแต่บุราณ

22.30 ถึง 24.00 พุโธสี่กษัตริย์กําจัดจาก แสนลําบากบุกป่านิราสถาน ละห้อยให้โหยใจในดงดาร ถึงสถานวงกตคีรีราย

24.00 ถึง 01.30 ระวิชูชกไปตามขอ สองพระหน่อน้อยนาฏดังมาตร์หมาย ได้แล้วพามาเมืองอันเรืองพราย ฝูงอํามาตย์ทั้งหลายก็จับเอา

01.30 ถึง 03.00 ชีโวกรุงสญไชยไถ่พระหลาน ด้วยแสนทรัพย์ศฤงคารให้พราหมณ์เฒ่า เป็นยามดีมีลาภไม่บรรเทา จงจดจําเอาตําหรับฉบับครู

03.00 ถึง 04.30 ศศิตรวจตราช้างม้าเสด็จ รับพระเวสสันดรนเรนทร์สูรย์ ไพร่พลแห่ห้อมไปพร้อมมูล เสด็จยูรยาตร์สู่บุรีรมย์

04.30 ถึง 06.00 ศุโกรพระบิดาราชาภิเษก เป็นองค์เอกกษัตริย์อันสูงสม เฉลิมมิ่งมงกุฏอันอุดม เป็นบรมสุโขภิญโญยศ

วันเสาร์

ยามกลางวัน

06.00 ถึง 07.30 เสารีมีกําลังดังช้างสาร กําแหงหาญฤทธาอันปรากฏ เมื่อนางอัสมูขีมีพยศ เป็นกําหนดในยามตามเรื่องราว

07.30 ถึง 09.00 พระครูยามพบพราหมณ์เอาเป็นผัว จําแลงตัวตุ้งติ้งเป็นหญิงสาว บําเรอรักภักดีไม่มีดาว ทุกค่ำเช้าเชยชิดสนิทนอน

09.00 ถึง 10.30 ภุมมะเกิดบุตรอันสุดที่รัก ชื่อบุญลักษณ์เรืองฤทธิมหิศร สุขเกษมเปรมปราสถาพร ยังไม่จรจากสถานของมารดา

10.30 ถึง 12.00 สุริชะลักพาบิดาหนี ข้ามคีรีห้วยธารละหานผา ไม่รั้งรอตั้งแต่จะรีบมา ยามหนีหนาพากันหนีดีสุดใจ

12.00 ถึง 13.30 ศุกระมาปะแม่น้ำกว้าง ยืนอยู่ข้างมหาชลาไหล เป็นยามดีหนีรอดเปล่าปลอดไป ไม่มีภัยแผ้วพาลสําราญกาย

13.30 ถึง 15.00 พุธะนางยักษ์ประจักษ์เหตุ ชลเนตรคลอคลองลงนองสาย ไปตามลูกกับผัวแทบตัวตาย เป็นยามร้ายเร่งจําเอาทํานอง

15.00 ถึง 16.30 จันเทานางถึงแก่วินาสน์ โอรสราชทดแทนพระคุณสนอง ไม่สู้ดียามนี้ชี้ทํานอง นางจึงต้องมรณาพิลาลัย

16.30 ถึง 18.00 เสารีนี้ได้เมื่อพระลูกรัก เจริญศักดิ์โสภาจะหาไหน ได้ครอบครองบุรีไม่มีภัย สําราญใจทุกวันนิรันดร

ยามกลางคืน

18.00 ถึง 19.30 โสโรหนุมานอันชาญกล้า รับอาสาทรงฤทธิ์มหิศร พบฤๅษีกราบก้มประนมกร อาศัยนอนที่ศาลาในราตรี

19.30 ถึง 21.00 พุโธหนุมานทยานเหาะ หมายเอาเกาะลงกาอันเรืองศรี ก็เหาะลงตรงราชธานี เป็นยามดีติดสมอารมณ์ลิง

21.00 ถึง 22.30 ระวิตริตรองมองเขม่น ก็แลเห็นสีดาพระยาหญิง สังเกตดูยลแยบคอยแอบอิง เป็นความจริงซื่อสัตย์ต่อภัสดา

22.30 ถึง 24.00 ชีโวยอมกายถวายแหวน แต่นางแสนเศร้าสร้อยละห้อยหา

24.00 ถึง 01.30 ศศิหนุมานชาญศักดา เข้าฉุดคร่าปั่นป่วนสวนมาลี

01.30 ถึง 03.00 ศุโกรฆ่าสหัสสบุตร์ลงม้วยมรณ์ ข่าวขจรฤๅชาถึงทศศรี

03.00 ถึง 04.30 ภุมโมอินทรชิตเข้าต่อตี จับได้กระบี่ก็มัดมา

04.30 ถึง 06.00 โสโรเกือบจะใกล้อรุณรุ่ง หนุมานเผากรุงท้าวยักษา อัฏฐกาลสองสถานรําพรรณมา แม้ยาตราเลือกเดินที่ยามดี