ดูดวง

ตั้งชื่อ

อ.วรุตม์ การันตี ดูดวงตั้งชื่อตามหลักโหราศาสตร์ ซึ่งวิธีการนี้ใช้ได้ผลดีมาหลายร้อยปีแล้ว ผมตรวจดูดวงชะตาก่อนโดยใช้วันเดือนปี เวลาเกิด จังหวัดที่เกิด จากนั้นคัดเลือกอักษรที่ช่วยเสริมดวงชะตา พร้อมกับแก้กาลกิณี เสร็จแล้วจึงใช้เลขศาสตร์เข้าไปจับคู่ เพื่อให้ชื่อใหม่กับนามสกุลได้เลขศาสตร์ที่ดี พร้อมทั้งบอกวันที่กับช่วงเวลาให้ไปเปลี่ยนชื่อ

ผมตั้งชื่อให้ 3 ชื่อ พร้อมกับบอกอักษรที่ดีให้ทราบ เพื่อให้ท่านสามารถตั้งชื่อได้เองตามใจชอบ เสร็จแล้วนำกลับมาให้ผมตรวจความถูกต้อง

ตั้งชื่อ เปลี่ยนชื่อ ค่าครู 600 บาท

ตั้งนามสกุล ตั้งชื่อร้าน ชื่อบริษัท 2,000 บาท

ติดต่อสะดวกโดย คลิก หรือสแกนคิวอาร์โค๊ดนี้ ไลน์ดูดวง หรือ แอดไลน์ไอดี @varut หรือ @ffv2368d

โทรศัพท์ +66993386888 , +66818626168 และ +66936969888

email: fortuneguru@yahoo.com

หากท่านต้องการตั้งชื่อ กรุณาโอนเงินตั้งชื่อ เสร็จแล้วส่งสลิปทางไลน์ไอดี @varut ..อ่านต่อด้านล่างหน้านี้

เว็บไซต์ได้รับ เครื่องหมายรับรอง DBD registered จาก กระทรวงพาณิชย์

** การตั้งชื่อ เปลี่ยนชื่อ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ **

ตั้งชื่อ

ผมเคยเปลี่ยนชื่อเสริมดวง สมัยก่อนผมชื่อ ภาณุวัฒน์ แปลว่า เจริญด้วยพระอาทิตย์ คุณพ่อขอให้ จอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นคนตั้ง และท่านยังมอบเงินฝากบัญชีธนาคารออมสินในชื่อนี้ให้อีก 100 บาท หลังจากได้เรียนโหราศาสตร์กับ อ.เทพย์ ท่านก็แนะนำให้ผมเปลี่ยนชื่อเป็น วรุตม์ แปลว่า ผู้ประเสริฐสุด ท่านบอกว่าชื่อเดิมก็พอใช้ได้ แต่ชื่อ วรุตม์ ดีกว่าท่านยืนยันว่าเปลี่ยนชื่อแล้วดวงชะตาจะดีขึ้น 'จะได้ลาภมาดมั่นดุจใจหมาย' ท่านพยายามเกลี้ยกล่อมผมหลายครั้ง ผมก็ไม่ยอมเปลี่ยนเพราะรู้สึกไม่คุ้นชิน และยึดติดว่าชื่อเดิม จอมพล แปลก ตั้งให้
ในตอนนั้นผมกำลังศึกษาที่โรงเรียนนายเรืออากาศ ชั้นปีที่ 2 ความฝันที่ต้องการที่สุดคือเป็นนักบิน และได้ผ่านการตรวจโรคแล้ว แต่เมื่อตรวจโรคอีกครั้งตอนสำเร็จชั้นปีที่ 5 ปรากฎว่าไม่ผ่าน ในตอนนั้นรู้สึกผิดหวังมาก เพราะทราบว่าชีวิตราชการคงไม่ก้าวหน้า ผมคิดว่าทางแก้ดีที่สุดคือ การเข้าไปทำงานที่บริษัทการบินไทยและเกษียณที่นี่ เมื่อไปสมัครก็ไม่สำเร็จ ผมนึกถึงคำ อ.เทพย์ และได้หาฤกษ์เปลี่ยนชื่อเป็น วรุตม์ หลังเปลี่ยนชื่อแล้ว ประกอบกับความรู้โหราศาสตร์ของผม ทำให้ทราบได้เลยว่าชื่อใหม่เสริมดวงได้จริง ตั้งใจทำอะไรก็สำเร็จ มีอุปสรรคอะไรก็ผ่านพ้นด้วยดี ได้ทุนไปเรียนปริญญาโท ได้เข้าทำงานที่บริษัทการบินไทยและเกษียณที่นี่ตามที่ต้องการ

วิธีการตั้งชื่อตามหลักโหราศาสตร์แต่โบราณคือ ท่านกำหนดให้มนุษย์ที่เกิดมาบนโลกนี้ อยู่ภายใต้อำนาจของเทวดา 8 องค์ มีชื่อตามอัฐเคราะห์ดังนี้คือ พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระอังคาร พระพุธ พระพฤหัสบดี พระศุกร์ พระเสาร์ และพระราหู

มนุษย์ทุกคนจะเข้าไปเป็นบริวารของ เทวดาประจำดาวเคราะห์องค์ใดองค์หนึ่ง ตามอักษรนำหน้าชื่อที่ออกเสียง โดยอักษรดังกล่าวดูได้จากปูมทักษา จากนั้นเทวดาทั้ง 8 องค์ จะทำหน้าที่กำหนดชะตาดี หรือร้าย ตามการโคจรของดาว

การตั้งชื่อคือ การเลือกไปเป็นบริวารของเทวดาองค์ที่ถูกโฉลกกัน เพื่อรับความคุ้มครองจากท่าน

การเปลี่ยนชื่อก็คือ การเปลี่ยนเทวดาที่คุ้มครองเรา

ความหมายของปูมทักษา

บริวารหมายถึง บุตร ภรรยา สามี ญาติมิตร ผู้ใต้บังคับบัญชาหรืออยู่ในความอุปการะ

อายุหมายถึง สุขภาพ โรคภัยที่ต้องระวัง

เดช หมายถึง อํานาจวาสนา ตำแหน่งหน้าที่การงาน การปกครอง ความเจริญก้าวหน้าในวิถีชีวิต

ศรี หมายถึง การได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง ความร่มเย็นเป็นสุข คุณงามความดีและสิริมงคล

มูล หมายถึง บ้านเรือนที่อยู่อาศัย ที่ดิน สวน ไร่ นา บิดามารดา หลักฐานความเป็นปึกแผ่นมั่นคง ฐานะความเป็นไป การเดินทาง การโยกย้าย

อุตสาหะ หมายถึง มีความขยันหมั่นเพียร การงานที่จะทำ การศึกษา

มนตรีหมายถึง ผู้ให้ความอุปถัมภ์ช่วยเหลือ ผู้ให้ความคุ้มครอง บุคคลผู้เป็นที่พึ่ง เจ้านาย ผู้บังคับบัญชา

กาลกิณี หมายถึง ศัตรู อุปสรรค ความทุกข์ยาก รายจ่าย สิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นความชั่วช้าคอยล้างผลาญทำลาย

ตามภูมิพยากรณ์ทักษาของคนที่เกิดในแต่ละวันนั้น ดาวในดวงชะตาจะมีตำแหน่งแตกต่างกันดังนี้

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ มี อาทิตย์เป็นบริวาร จันทร์เป็นอายุ อังคารเป็นเดช พุธเป็นศรี เสาร์เป็นมูล พฤหัสเป็นอุตสาหะ ราหูเป็นมนตรี ศุกร์เป็นกาลกิณี(ศ ษ ส ห ฬ อํ)

ผู้ที่เกิดวันจันทร์ มี จันทร์เป็นบริวาร อังคารเป็นอายุ พุธเป็นเดช เสาร์เป็นศรี พฤหัสเป็นมูล ราหูเป็นอุตสาหะ ศุกร์เป็นมนตรี อาทิตย์เป็นกาลกิณี(อ อา อิ อี อุ อู เอ โอ)
คนเกิดวันจันทร์ สามารถใช้ ไม้หันอากาศ และการันต์ได้ ทั้งนี้เพราะว่าทั้งสองตัวนี้ ไม่มีเสียงของตัวเอง
ไม้หันอากาศ มีที่มา 'เกิดจากการซ้อนพยัญชนะ และมาเปลี่ยนแปลงไปใช้ไม้หันอากาศแทน' ในรัชสมัยพระยาลิไท
ส่วนการันต์แสดงถึง ตัวอักษรที่ไม่ต้องการให้ออกเสียง

ผู้ที่เกิดวันอังคาร มี อังคารเป็นบริวาร พุธเป็นอายุ เสาร์เป็นเดช พฤหัสเป็นศรี ราหูเป็นมูล ศุกร์เป็นอุตสาหะ อาทิตย์เป็นมนตรี จันทร์เป็นกาลกิณี(ก ข ค ฆ ง)

ผู้ที่เกิดวันพุธกลางวัน มี พุธเป็นบริวาร เสาร์เป็นอายุ พฤหัสเป็นเดช ราหูเป็นศรี ศุกร์เป็นมูล อาทิตย์เป็นอุตสาหะ จันทร์เป็นมนตรี อังคารเป็นกาลกิณี(จ ฉ ช ซ ฌ ญ)

ผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืน(ราหู) มี ราหูเป็นบริวาร ศุกร์เป็นอายุ อาทิตย์เป็นเดช จันทร์เป็นศรี อังคารเป็นมูล พุธเป็นอุตสาหะ เสาร์เป็นมนตรี พฤหัสเป็นกาลกิณี(บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม)

ผู้ที่เกิดวันพฤหัส มี พฤหัสเป็นบริวาร ราหูเป็นอายุ ศุกร์เป็นเดช อาทิตย์เป็นศรี จันทร์เป็นมูล อังคารเป็นอุตสาหะ พุธเป็นมนตรี เสาร์เป็นกาลกิณี(ด ต ถ ท ธ น)

ผู้ที่เกิดวันศุกร์ มี ศุกร์เป็นบริวาร อาทิตย์เป็นอายุ จันทร์เป็นเดช อังคารเป็นศรี พุธเป็นมูล เสาร์เป็นอุตสาหะ พฤหัสเป็นมนตรี ราหูเป็นกาลกิณี(ย ร ล ว)

ผู้ที่เกิดวันเสาร์ มี เสาร์เป็นบริวาร พฤหัสเป็นอายุ ราหูเป็นเดช ศุกร์เป็นศรี อาทิตย์เป็นมูล จันทร์เป็นอุตสาหะ อังคารเป็นมนตรี พุธเป็นกาลกิณี(ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ)

อักษรที่ประจําปูมทักษามีดังนี้

อาทิตย์ อ อา อิ อี อุ อู เอ โอ

จันทร์ ก ข ค ฆ ง

อังคาร จ ฉ ช ซ ฌ ญ

พุธ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ

เสาร์ ด ต ถ ท ธ น

พฤหัส บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม

ราหู ย ร ล ว

ศุกร์ ศ ษ ส ห ฬ อํ

การขึ้นวันใหม่จะเริ่มนับเมื่อเวลาพระอาทิตย์ขึ้นที่ขอบฟ้า ยกเว้นคนเกิดวันพุธในช่วงเวลากลางคืนเริ่มนับเมื่อพระอาทิตย์ตกไปถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นใหม่ในวันถัดไป

พิจารณาเรียงลําดับพี่น้องที่เกิดตามกันมาในเพศเดียวกัน เช่นมีพี่น้อง 5 คน และเป็นบุตรคนที่ 4 แต่ก่อนหน้านี้ มีพี่สาว 2 คน เมื่อนับเรียงเฉพาะเพศชายก็จะได้ว่าเป็น บุตรชายลําดับที่สองเป็นต้น จะเปรียบเหมือนคล้ายกับคนเกิดวันจันทร์ด้วย เพราะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของพระจันทร์

ในการเรียงลําดับที่เกิดตามเพศให้จัดเรียงดังนี้

ลําดับที่ 1 เปรียบเหมือนเกิดวันอาทิตย์

ลําดับที่ 2 เปรียบเหมือนเกิดวันจันทร์

ลําดับที่ 3 เปรียบเหมือนเกิดวันอังคาร

ลําดับที่ 4 เปรียบเหมือนเกิดวันพุธในช่วงเวลากลางวัน

ลําดับที่ 5 เปรียบเหมือนเกิดวันพฤหัส

ลําดับที่ 6 เปรียบเหมือนเกิดวันศุกร์

ลําดับที่ 7 เปรียบเหมือนเกิดวันเสาร์

ลําดับที่ 8 เปรียบเหมือนเกิดวันพุธในช่วงเวลากลางคืน

หากครบ 8 แล้วให้วนไปตั้งต้นที่ 1 ใหม่


จากนี้ไปจะอาศัยกฎเกณฑ์เช่น

  1. พิจารณาดาวให้คุณให้โทษจากดวงชะตา เพื่อกําหนดอักษรที่จะแก้ไข หรือเสริมดวงชะตา
  2. สําหรับผู้ชาย และดวงชะตาธรรมดาทั่วไป ให้ใช้อักษรที่เป็น เดช หรือ บริวาร ตามวันเกิดขึ้นต้น และต้องออกเสียงด้วย
  3. ส่วนผู้หญิง และดวงชะตาธรรมดาทั่วไป ให้ใช้อักษรที่เป็น ศรี หรือ บริวาร ตามวันเกิดขึ้นต้น และต้องออกเสียงด้วย
  4. ให้งดเว้นอักษรที่เป็น กาลกิณี มาใส่ไว้ในชื่อโดยเด็ดขาด
  5. ยังมีกฎเกณฑ์อื่นๆ อีกมากสําหรับแก้ดวงชะตา ที่ไม่สามารถกล่าวได้หมดในที่นี้

สําหรับค่าตัวเลขศาสตร์ที่ใช้ เทียบกับอักษร ทั้งภาษาไทย และอังกฤษ ที่นิยมใช้กันมีดังนี้

เลข 1 ก ด ถ ท ภ า ฤ ฤๅ สระอำ สระอุ ไม้เอก

เลข 2 ข ช ง บ ป สระเอ สระอู สระแอ ไม้โท

เลข 3 ฆ ต ฑ ฒ ไม้จัตวา

เลข 4 ค ธ ญ ร ษ สระอะ สระอิ สระโอ ไม้หันอากาศ

เลข 5 ฉ ฌ ณ น ม ห ฎ ฮ ฬ สระอึ

เลข 6 จ ล ว อ สระใอ

เลข 7 ซ ศ ส ไม้ตรี สระอี สระอือ

เลข 8 ผ ฝ พ ฟ ย ไม้ไต่คู้ ( ็ )

เลข 9 ฏ ฐ สระไอ การันต์


เลข 1 A I J Q Y

เลข 2 B K R

เลข 3 C G L S

เลข 4 D M T

เลข 5 E H N X

เลข 6 U V W

เลข 7 O Z

เลข 8 F P

เลข 9 ไม่มีตัวอักษร

ตัวอย่างชื่อวโรตม์ พันทะวงศ์ แทนค่าชื่อ 6+4+4+3+5+9 = 31 สกุล 8+4+5+1+4+6+2+7+9 = 46

เมื่อนําชื่อ และนามสกุลมารวมกันได้เท่ากับ 31+46 = 77

จากนั้นจึงนําเลข 7+7 มาบวกกันได้เท่ากับ 14

และยังสามารถเอาตัวเลข 1+4 มาบวกกันได้อีกเพื่อให้เหลือเพียงหลักเดียวได้เท่ากับ 5

ให้สังเกตความเป็นไปในสิ่งที่จะเกิดขึ้นเช่น การอยู่ในบ้านเรือน อาคาร ที่มีผลรวมของเลขเป็น 77 14 หรือ 5 จะมีผลอย่างไร ดังนี้เป็นต้น

การทำบุญหลังตั้งชื่อใหม่นั้น "ไม่บังคับ" ทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ แล้วแต่ศรัทธา เหมือนอย่างเช่นเวลาเด็กเกิดใหม่ ส่วนใหญ่ก็ตั้งชื่อกันโดยไม่ได้ทำบุญ สำหรับผมบอกวันเพื่อให้ไปเปลี่ยนชื่อ ขอเพียงท่านไปเปลี่ยนชื่อตรงวันที่บอกไปเท่านั้น

ข้อควรระวัง

มีหลักเพิ่มเติมอีกว่าชื่อของ พระอริยะ เทวดา พระพรหม นางฟ้า เทพเจ้า หรือหัวใจคาถา ต่างๆ จะไม่นิยมมาตั้งเป็นชื่อ เพราะถือว่าเป็นชื่อเฉพาะที่ต้องห้าม คล้ายกับว่าชื่อนั้น ถูกจดลิขสิทธิ์เอาไว้แล้ว

คนที่เกิดช่วงเช้าทุกวัน และช่วงค่ำวันพุธ ต้องระวังตั้งชื่อผิดเพราะคนส่วนใหญ่คิดว่าพระอาทิตย์ขึ้น 6 โมงเช้า และตกในเวลา 6 โมงเย็น แต่ความเป็นจริง ในแต่ละวันจะไม่เท่ากันเลย ตัวอย่างเช่น ในฤดูหนาวกลางวันมี 11 ชั่วโมง และกลางคืนมี 13 ชั่วโมง เราจะสังเกตเห็นว่า "มืดค่ำเร็ว และสว่างช้าในตอนเช้า" ตรงกันข้ามกับในฤดูร้อนที่มีกลางวัน 13 ชั่วโมง และกลางคืนมี 11 ชั่วโมง อันทำให้ "มืดค่ำช้า และสว่างเร็วในตอนเช้า"

ยิ่งในต่างประเทศเช่น นอร์เวย์จะมีกลางวัน 6 เดือน และกลางคืน 6 เดือน
เพราะการตั้งชื่อนั้นใช้วันทางจันทรคติ หมายถึงเปลี่ยนวันใหม่ เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้า

การตั้งชื่อด้วยเลขศาสตร์ ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจว่า 'ตัวเลข' และ'ตัวอักษร' เป็นสิ่งสมมติขึ้นมา ส่วนของจริงที่มีในธรรมชาติคือ ดวงดาวบนท้องฟ้า กับเสียงที่มนุษย์ใช้เรียกชื่อกัน

ตำราเลขศาสตร์ที่เผยแพร่ในปัจจุบันมีทั้งแบบ ไทย จีน ฝรั่ง ซึ่งมีความเห็นบางอย่างขัดแย้งกัน และตำราที่เผยแพร่ในปัจจุบันยังไม่สมบูรณ์ เพราะคำแปลความหมายของเลขแต่ละตัวมีเพียงด้านเดียวคือ 'ดี หรือร้าย' ไปเลยเท่านั้น

เลขศาสตร์ที่ถูกต้องนั้น คำแปลเลขทุกตัว สามารถมีความหมายได้สองด้าน ซึ่งจะดีหรือร้ายนั้น ขึ้นกับดวงชะตาของแต่ละคน

ตัวอย่างเช่น เลข 34 ทุกตําราบอกไม่ดี แต่ในทางโหราศาสตร์ ถ้าในดวงชะตามีโยคเกณฑ์ที่ดีของ 34 เขาอาจจะเป็นวิศวกร นักคิด นักคํานวณ

ในทางกลับกัน ถ้าในดวงชะตามีโยคเกณฑ์ไม่ดีของ 34 ผลจะออกมาไม่ดี ดังนี้เป็นต้น

หลักการเลขศาสตร์ คิดค้นเพิ่มเติมมาจากโหราศาสตร์ ดังนั้นการใช้เลขศาสตร์ต้องไม่ขัดแย้ง กับหลักการทางโหราศาสตร์

ท่านสามารถพิสูจน์โดย ทดลองเอาชื่อสกุล ของคนที่ท่านรู้จักเป็นส่วนตัว ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ และล่วงลับไปแล้ว ไปเช็กดูหลายๆ คน และวิเคราะห์ด้วยความตรงไปตรงมา จากนั้นท่านจะทราบคำตอบว่า "เลขตัวเดียวกัน บางคนดี บางคนไม่ดี"

ขอยกตัวอย่างชื่อ"เจริญ" ผลรวม "20" คำทำนายจากตำราเลขศาสตร์ในยุคแรก ที่แปลจากต่างประเทศบอกไม่ดีเลย แต่ตอนหลังพบว่ามีทั้งมหาเศรษฐีแสนล้าน และสมเด็จพระสังฆราช ตำราในยุคหลังก็เลยมีการแก้ไข ตามลักษณะบุคคลที่มีชื่อเสียงว่า ดีสำหรับผู้ชาย แต่ไม่ดีสำหรับผู้หญิง ซึ่งผมก็พบว่าไม่เป็นความจริงเช่น คุณหญิงเจริญ

การเปลี่ยนนามสกุล ไม่เกี่ยวกับการแก้ดวงชะตา ถึงแม้จะมีอักษรกาลกิณี เนื่องจากนามสกุล จะบอกตระกูล หรือสกุล เพื่อแสดงที่มาของบุคคลนั้นว่ามาจากครอบครัวไหน ตระกูลใด และมีประวัติความเป็นมาอย่างไร

ยกตัวอย่าง ในประเทศจีนสมัยโบราณบางเมืองมีแซ่เดียวกัน หรือประเทศเกาหลีมีแค่ 3 ตระกูลใหญ่คือ ปาร์ค คิม และ ลี นอกนั้นเป็นตระกูลเล็กๆ

การเปลี่ยนนามสกุล ควรมีเหตุผลที่จําเป็นเท่านั้นเช่น เป็นคนต่างชาติที่ได้รับสัญชาติไทย

ในปัจจุบันมีเรื่อง "อุปโลกน์ หลอกลวง" ถูกแต่งขึ้นมา และนำไปเผยแพร่

ดังตัวอย่างต่อไปนี้

  1. "ผีหลวง และหลาวเหล็ก" ไม่เกี่ยวกับอักษรตั้งชื่อแต่เป็นทิศต้องห้าม ในเวลาประกอบพิธีมงคล
    รายละเอียดตามรูปด้านล่าง
    (ข้อมูลจากหนังสือ โหราศาสตร์ภาคนักษัตร(ฤกษ์)
    แนวทางศึกษาโหราศาสตร์ ภาคสมบูรณ์
    โดยอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร)
    ทิศผีหลวง-หลาวเหล็ก
  2. ตัวอย่างอีกเรื่องคือ การนำคำในพระพุทธศาสนามาใช้ เพราะหวังผลทางการตลาด เพื่อให้เกิดความกลัวแล้วต้องเปลี่ยนชื่อ เช่น "อายตนะ"
    โดยปกติคำศัพท์ทางพุทธศาสตร์ จะไม่มีคำที่ซ้ำกับโหราศาสตร์เลยแม้แต่คำเดียว
    ปัจจุบันเรื่องทำนองนี้มีมากขึ้นเรื่อยเช่น เรียกเป็นพลังต่างๆ เรียนแบบหนังจีนกำลังภายใน
    เพราะเหตุที่คนทั่วไป ไม่ได้ศึกษาการตั้งชื่ออย่างถ่องแท้ ประกอบกับชีวิตคนส่วนใหญ่ ผ่านเรื่องดีและร้ายมาเกือบทุกเรื่อง เมื่ออ่านแล้วจึงคล้อยตาม หลงเชื่อคำทำนายชื่อตามจิตวิทยาที่นักเขียนชักจูงไป

ผมต้องการยกระดับ และดำรงรักษาวิชาโหราศาสตร์ จึงต้องเปิดเผยเรื่องนี้ให้คนทั่วไปทราบ และโปรดกรุณาบอกต่อไปให้ทราบทั่วกันด้วย

ดังนั้นก่อนที่จะเชื่ออะไร โปรดใช้วิจารณญาณ และต้องทราบด้วยว่า ใครคือคนตั้งชื่อให้คุณ มีตัวตนแน่นอนหรือเปล่า